• ไทย
  • English

คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ

Brain Rehab physiotherapy clinic provides treatments for office syndrome: Neck Pain, Back Pain, Leg Pain, Thigh Pain, Knee Pain, OA Knee, Plantar Fascilitis, Shoulder Pain, Herniated Nucleus Pulposus, Frozen Shoulder, including referred pain and chronic pain.

คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ

Brain Rehab physiotherapy clinic provides treatments for office syndrome: Neck Pain, Back Pain, Leg Pain, Thigh Pain, Knee Pain, OA Knee, Plantar Fascilitis, Shoulder Pain, Herniated Nucleus Pulposus, Frozen Shoulder, including referred pain and chronic pain.

Office-Related Syndrome

กายภาพฯ ออฟฟิศซินโดรม

รักษา ตรงจุด
ลดปวดอย่าง ยั่งยืน
ด้วยนักกายภาพฯ ประสบการณ์สูง

Brain Rehab physiotherapy clinic near me provides spine treatments such as Scoliosis and HNP (Herniated Nucleus Pulposus). 2 convenient locations: Asoke, Sukhumvit road, Bangkok and Mueang Bangyai, Bang bua thong, Nonthaburi. Choose convenient location near me

Scoliosis (กระดูกสันหลังคด)

โรคทางระบบกระดูกสันหลัง

ลด ปวด
พัฒนา บุคลิกภาพ
รักษาได้ ไม่ต้องผ่าตัด

Brain Rehab physiotherapy clinic near me provides treatments for sports injuries such as golf, badminton, football, basketball, tennis, taekwondo, as well as rehabilitating athletes after surgery on the anterior cruciate ligament (ACL), knee, and hip joints. 2 convenient locations: Asoke, Sukhumvit road, Bangkok and Mueang Bangyai, Bang bua thong, Nonthaburi. Choose convenient location near me

บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

ฟื้นฟูหลังผ่าตัด

​ลดปวด ตรงจุด
หายไว ไม่เรื้อรัง
กลับไปเล่นกีฬาอย่าง มีประสิทธิภาพ

Neurological and Stroke Rehabilitation physiotherapy clinic near me: Asoke, Sukhumvit road, Bangkok and Mueang Bangyai, Bang bua thong, Nonthaburi. Choose convenient location near me

Stroke Rehabilitation

ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

ฟื้นฟูไว ได้ผลดี
โดยนักกายภาพฯ ผู้เชี่ยวชาญ
กลับมามี คุณภาพชีวีตที่ดี

เกี่ยวกับคลินิก

คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ ก่อตั้งขึ้นโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมองประจำศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา และนักกายภาพฯ วิชาชีพ ซึ่งเล็งเห็นถึงปัญหาของโรคหลอดเลือดสมองที่เป็นปัญหาสําคัญทั่วโลก

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ สถานการณ์ของโรคหลอดเลือดสมองซึ่งมักพบในผู้สูงอายุ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของตัวผู้ป่วยเอง ยังส่งผลต่อเนื่องถึงญาติและผู้ดูแล และที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอีกด้วย ปัญหาที่สำคัญของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง คือ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาและการฟื้นฟูด้วยวิธีกายภาพฯ อย่างถูกต้องเหมาะสม ควบคู่กับการเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยมีความตั้งใจพัฒนาตนเองจนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น และกลับมาใช้ชีวิตที่เป็นปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดปัญหาการเป็นภาระของญาติและผู้ดูแล

ทีมงาน เบรน รีแฮบ คลินิก มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองให้ดีขึ้น โดยนำประสบการณ์จากการทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา มาประยุกต์ใช้ในแผนการรักษาและฟื้นฟูแบบองค์รวมเฉพาะบุคคล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังพร้อมให้บริการบำบัดอาการปวดของโรคระบบกระดูก กล้ามเนื้อ และข้อต่อ ด้วยวิธีทางกายภาพฯ สำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดข้อเข่า ข้อสะโพก รวมถึงผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม และอาการบาดเจ็บทางกีฬาต่าง ๆ อีกด้วย

ทางคลินิกมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการกายภาพฯ ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองด้วยแผนการรักษาแบบองค์รวมเฉพาะบุคคล เพื่อพัฒนาระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และสร้างเสริมความสุขของครอบครัว รวมถึงการพัฒนาแนวทางการรักษา สำหรับโรคระบบกระดูก กล้ามเนื้อ และข้อต่อ

คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ อโศก หรือค้นหาง่ายๆว่า 'กายภาพ อโศก' หรือ 'กายภาพ กรุงเทพ'

กายภาพ กรุงเทพ

กายภาพ อโศก

คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ นนทบุรี หรือค้นหาง่ายๆว่า 'กายภาพ นนทบุรี' หรือ 'กายภาพบําบัด ใกล้ฉัน'

กายภาพ นนทบุรี

คลินิกกายภาพบำบัด ใกล้ฉัน

หากคุณกำลังค้นหาคำว่า ‘กายภาพ อโศก’ ‘กายภาพ กรุงเทพ’ ‘กายภาพ นนทบุรี’ หรือ ‘กายภาพ ใกล้ฉัน’ เบรน รีแฮบ คลินิก คือคำตอบ

บริการ

โปรแกรมการรักษาของทางคลินิกกายภาพฯ เบรน รีแฮบ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยส่งเสริมให้คนไข้ กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและมีความสุข

โปรแกรมลดปวด Standard Course (60-75 นาที) การรักษาประกอบด้วยการตรวจร่างกาย เพื่อหาสาเหตุของอาการปวดที่แท้จริง เพื่อการรักษาที่ตรงจุด การลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นด้วยเครื่องมือต่างๆ 

เช่น เครื่องช็อคเวฟ เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า ฯลฯ เทคนิคการคลายกล้ามเนื้อ ยืดกล้ามเนื้อ การประคบอุ่น-ประคบเย็น การขยับ-ดัด-ดึงข้อต่อ (Mobilization) การดึงคอ-หลัง (Manual Traction) ในกรณีที่ข้อต่อติดหรือมีอาการหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท รวมถึงการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ​ และที่สำคัญที่สุด คือ การปรับ Posture ในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึง Home Program เพื่อการรักษาที่เห็นผลอย่างยั่งยืน

โปรแกรมลดปวด Platinum Course (120-135 นาที) เหมือนกับ Standard Course แนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการปวดมากกว่า 2 จุดขึ้นไป เพื่อการรักษาอย่างเต็มที่

รักษาอาการออฟฟิศซินโดรม, ปวดคอ, ปวดบ่า, ปวดไหล่, ปวดสะบัก, ไหล่ติด, ปวดร้าวขึ้นศีรษะ, ไมเกรน, ปวดหลังส่วนล่าง, ปวดเอว, ปวดขา, ปวดสะโพก, รักษาสลักเพชรจม, รักษาอาการปวดร้าวลงขา, รักษาหมอนรองกระดูกเสื่อม-เคลื่อน-ปลิ้น ทับเส้นประสาท, ชาปลายมือ-ปลายเท้า, รักษาอาการปวดเข่า, ข้อเข่าเสื่อม, ปวดข้อมือ, นิ้วล็อก, รองช้ำ, กล้ามเนื้ออักเสบ, ผู้ที่ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า-ข้อสะโพก และบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

● พนักงานออฟฟิศ สำหรับผู้ที่ต้องนั่งหรือยืนทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน มักจะมีอาการปวดคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดขา หรือที่เรียกว่า “ออฟฟิศซินโดรม” ทางคลินิกฯ สามารถบรรเทาอาการปวด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ฯลฯ
● ผู้ที่ปวดเรื้อรัง เช่น ปวดหลังเรื้อรัง ปวดเข่าเรื้อรัง ฯลฯ เราสามารถช่วยให้คนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
● ผู้ที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหว สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มองศาการเคลื่อนไหว (Range of Motion) หรือไม่สามารถใช้งานอวัยวะส่วนนั้นๆ ได้ตามปกติ เช่น ไหล่ติด ศอกติด และนิ้วล็อก ฯลฯ เราสามารถช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น
● ผู้ที่ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า หรือข้อสะโพก ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัด ให้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
● ผู้สูงอายุ ช่วยชะลอความเสื่อมของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นและข้อต่อ จากความเสื่อมของร่างกายตามอายุที่เพิ่มขึ้น รวมถึง ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
● นักกีฬา ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา รวมถึงเพิ่มสมรรถภาพร่างกายให้เหมาะสมกับชนิดกีฬานั้นๆ โดยการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน มัดที่ใช้งานหนักสำหรับกีฬาแต่ละประเภท นอกจากนี้ ยังช่วยเตรียมความพร้อมของร่างกายก่อนและหลัง รวมถึงการฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังการใช้งานอย่างหนัก เพื่อให้ร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วย ป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ได้อีกด้วย

​ปวดคอ บ่า ไหล่

​ปวดคอ บ่า ไหล่

ไหล่ติด

ไหล่ติด

ปวดหลัง

ปวดหลัง

ปวดเข่า

ปวดเข่า

ปวดร้าวลงขา

ปวดร้าวลงขา

บาดเจ็บจากกีฬา

บาดเจ็บจากกีฬา

โปรแกรมฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง  (90 นาที) ​ให้บริการตรวจประเมิน บำบัด รักษา แก้ไข และฟื้นฟูด้วยวิธีทางกายภาพฯ แก่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยใช้แผนการรักษาแบบองค์รวมเฉพาะบุคคล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โปรแกรมถูกออกแบบและให้คำปรึกษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมอง นพ.คุณากร อัชชนียะสกุล

ปัญหาที่สำคัญของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง คือ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาและการฟื้นฟูด้วยวิธีที่ถูกต้องเหมาะสม ควบคู่กับการเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยมีความตั้งใจพัฒนาตนเอง จนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น และกลับมาใช้ชีวิตที่เป็นปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดปัญหาการเป็นภาระของญาติและผู้ดูแล 

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองควรได้รับการฟื้นฟูด้วยวิธีทางกายภาพฯ โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ (เมื่ออาการของผู้ป่วยคงที่แล้ว) เพื่อเพิ่มโอกาสในการกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ 

เพราะการฟื้นฟู รอไม่ได้…

คลินิกกายภาพฯ คืออะไร

คลินิกกายภาพฯ จัดเป็นสถานพยาบาลประเภทไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน อยู่ภายใต้ข้อบังคับของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล ให้บริการทางด้านกายภาพฯ และดำเนินการโดยนักกายภาพฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขากายภาพฯ

โดยเน้นการรักษา ส่งเสริม ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม ไม่พึ่งพาการใช้ยา และใช้เทคนิคเฉพาะทาง เช่น การออกกำลังกายเพื่อการบำบัด (Therapeutic Exercises) การใช้เครื่องมือต่างๆ (Modalities) และเทคนิคการรักษาด้วยมือ (Manual Therapy) เช่น การดัด-ดึงข้อต่อ การขยับข้อต่อ การยืดกล้ามเนื้อ ฯลฯ

เป้าหมายสำคัญ คือ การช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ลดความเจ็บปวด เพิ่มคุณภาพชีวิต และเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย ให้กลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุด โดยที่นักกายภาพฯ จะมีบทบาทสำคัญ ดังนี้

  • ตรวจประเมินร่างกาย นักกายภาพฯ จะตรวจร่างกายอย่างละเอียด (Physical Examination) เพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติของร่างกาย เช่น การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทั้งสองฝั่งไม่เท่ากัน (Muscle Imbalance) ข้อต่อยึดติด มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว ฯลฯ
  • ออกแบบโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคล เนื่องจากสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละคน รวมถึงความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกัน ประกอบกับข้อมูลจากการตรวจประเมินร่างกาย ทำให้นักกายภาพฯ สามารถออกแบบโปรแกรมการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น เป้าหมายในการรักษาและฟื้นฟู อายุ สภาพร่างกาย รอยโรค วินัยของคนไข้ ความร่วมมือของญาติ ฯลฯ
  • รักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการบำบัดด้วยมือ (Manual Therapy) การใช้เครื่องมือทางกายภาพฯ (Modalities) การออกกำลังกายบำบัด (Therapeutic Exercises) และวิธีการอื่นๆ นักกายภาพฯ จะประยุกต์ใช้วิธีการรักษาต่างๆ ให้เหมาะสมกับอาการและสภาพร่างกายของคนไข้ รวมถึงข้อห้ามต่างๆ เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือทางกายภาพฯ บางประเภท
  • ให้ความรู้และคำแนะนำ นักกายภาพฯ จะให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับรอยโรคและสภาพร่างกายของคนไข้ เพื่อที่จะปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การปรับท่าทางการทำงานที่เป็นสาเหตุของอาการปวด ให้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) รวมถึง การออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อการฟื้นฟูที่ได้ผลในระยะยาว
  • ทำงานร่วมกับสหวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล นักกิจกรรมบำบัด ฯลฯ ส่งผลให้การรักษาครอบคลุมในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ยืดกล้ามเนื้อขา
กระตุ้นไฟฟ้าที่น่อง
นักกายภาพบำบัดให้ความรู้ ความเข้าใจในรอยโรค แก่คนไข้
กายภาพฯ มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย

หากคุณกำลังค้นหาคำว่า ‘คลินิกกายภาพบำบัด ใกล้ฉัน’ คุณควรจะพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ และทำให้มั่นใจได้ว่า คุณจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

  • ใบอนุญาต
    • คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
    • ประเภทของคลินิก จะแสดงขอบเขต ความรับผิดชอบในการรักษาที่แตกต่างกัน และต้องดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพโรคศิลปะสาขานั้นๆ เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกการแพทย์แผนไทย ฯลฯ ซึ่งสามารถสังเกตประเภทคลินิกได้ง่ายๆ ที่ป้ายชื่อคลินิก ที่แสดงด้านหน้าของคลินิก

การเข้ารับบริการคลินิกที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องและตรงตามประเภท จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ได้รับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพนั้นจริงๆ

  • ใบประกอบวิชาชีพ นักกายภาพฯ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพที่ยังไม่หมดอายุ ในปัจจุบัน มีหลายๆ คลินิกได้ให้บุคลากรในสาขาวิชาชีพอื่น ซึ่งไม่มีใบประกอบวิชาชีพ และไม่ได้สำเร็จการศึกษาขั้นต่ำปริญญาตรีทางด้านกายภาพฯ รวมถึงผู้ที่ยังสอบใบประกอบวิชาชีพฯ ไม่ผ่าน มาทำการรักษาคนไข้ทางด้านกายภาพฯ ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของตัวคนไข้เอง สามารถเช็คข้อมูลได้ง่ายๆ ว่าบุคคลที่ทำการรักษามีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ คลิกที่นี่
  • รูปแบบการรักษา แนวทางการรักษาทางกายภาพฯ ในปัจจุบัน มีความหลากหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการ เน้นการใช้เครื่องมือ หรือ เน้นวิธี Manual Therapy รวมถึง Therapeutic exercises

ดังนั้น ก่อนเข้ารับการรักษา คุณควรปรึกษาถึงแนวทางการรักษา ขั้นตอนการรักษา เพื่อทำให้มั่นใจว่าเหมาะสมกับรอยโรค หรืออาการที่คุณกำลังเป็นอยู่ และตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด รวมถึงการประเมินค่าใช้จ่าย ความถี่และจำนวนครั้งที่ต้องเข้ารับการรักษา และสิทธิในการเคลมประกันสุขภาพที่สามารถใช้ได้

  • ประสบการณ์ของนักกายภาพฯ จะช่วยในการตรวจประเมิน เพื่อหาสาเหตุของอาการได้อย่างถูกต้องแม่นยำ สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการรักษาจะตรงจุด ช่วยให้การรักษาและฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และยั่งยืน
  • อุปกรณ์ที่ทันสมัยและเหมาะสม เครื่องมือทางกายภาพฯ สามารถช่วยทำให้ประสิทธิภาพของการรักษาดียิ่งขึ้น และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
  • บรรยากาศของคลินิก บรรยากาศที่สงบ ไม่แออัด สะอาด และปลอดภัยจะช่วยทำให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อการรักษา
  • การเดินทาง คลินิกควรอยู่ในพื้นที่ที่เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ เพื่อให้คนไข้สามารถเข้ารับบริการได้อย่างสะดวกและต่อเนื่อง ไม่ต้องเสียพลังงานไปกับการเดินทาง

กายภาพบำบัด

กายภาพฯ เป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ​ที่มุ่งเน้นการรักษา ส่งเสริม ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม  เพื่อช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การบรรเทาอาการปวด การเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหว การฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย

แนวทางการรักษาที่คลินิก

Assessment

Ultrasound

Shockwave Therapy - การรักษาทางกายภาพบำบัดด้วยคลื่นช็อคเวฟ - ช็อคเวฟ กายภาพ ใกล้ฉัน - shockwave therapy near me

​Shockwave

Electrical Stimulation

​Gun Massage

​Joint Mobilization

Manual Traction

​Stretching

​Hot/Cold Compress

Exercises

​Home Program

Posture Correction

การตรวจประเมิน

(Assessment) เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด นักกายภาพฯ จะทำการซักประวัติอย่างละเอียด ทำการตรวจร่างกาย และวิเคราะห์ปัญหา เพื่อประเมินความผิดปกติ เช่น ปัญหาการทรงตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พิสัยการเคลื่อนไหว (Range of motion) ฯลฯ เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ที่ถูกต้องแม่นยำ โดยคนไข้ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการป่วยต่างๆ อย่างถูกต้องและครบถ้วน

อัลตราซาวด์

(Ultrasound Therapy) เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อลดอาการอักเสบ ปวด บวม ของกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อและเนื้อเยื่อต่างๆ โดยมีข้อควรระวังในคนไข้บางประเภท เช่น มีแผลติดเชื้อ มะเร็ง ตั้งครรภ์ ฯลฯ ทั้งนี้ ควรแจ้งรายละเอียดที่ถูกต้องให้นักกายภาพฯ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการรักษา

ช็อคเวฟ

(Shockwave Therapy) เป็นการใช้คลื่นกระแทกแรงอัดสูง เพื่อลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ สลายหินปูน ฯลฯ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นอักเสบเรื้อรัง รองช้ำ และอาการปวดต่างๆ

เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า

(Electrical Stimulation) เป็นการใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด และฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง

ปืนคลายกล้ามเนื้อ

(Gun Massage) ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ช่วยลดอาการตึงตัว และช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังการใช้งานหนัก

การขยับข้อต่อ

(Joint Mobilization) เป็นเทคนิคการขยับข้อต่อ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อและเนื้อเยื่อโดยรอบ เหมาะสำหรับผู้ที่มีการเคลื่อนไหวข้อต่อติดขัด

การดึงคอ-ดึงหลัง

(Manual Traction) เป็นการดึงข้อต่อกระดูกสันหลังด้วยมือ เพื่อเพิ่มช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลัง และลดการกดทับของเส้นประสาทในโรคกระดูกสันหลัง เช่น โรคหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาท ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมทับเส้นประสาท ฯลฯ

การยืดกล้ามเนื้อ

(Stretching) ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มองศาของการเคลื่อนไหว และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย

การประคบร้อน การประคบเย็น

(Hot/Cold Compress) การประคบร้อนช่วยคลายกล้ามเนื้อ และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ส่วนการประคบเย็นจะช่วยลดอาการอักเสบและบวม อ่านต่อได้ ที่นี่

การออกกำลังกายเฉพาะส่วน

(Therapeutic Exercises) เพื่อปรับสมดุลของกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ยืดหยุ่น และทนทาน รวมถึง การฝึกการทรงตัวในผู้ป่วยหลังผ่าตัด บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา โรคหลอดเลือดสมอง ฯลฯ

โปรแกรมที่บ้าน

(Home Program) เป็นโปรแกรมการออกกำลังกาย รวมถึงท่ายืดกล้ามเนื้อที่นักกายภาพฯ ออกแบบให้ผู้ป่วยสามารถทำได้เองที่บ้าน เพื่อการรักษาที่ได้ผลดียิ่งขึ้น

การปรับท่าทางให้ถูกต้อง

(Posture Correction) เช่น ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง ท่าขับรถที่ถูกต้อง ท่ายกของที่ถูกต้อง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยลดอาการปวด ช่วยลดความเสี่ยงของอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ ช่วยทำให้กล้ามเนื้อทำงานอย่างสมดุล และช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้น

บทความ

คำถามที่พบบ่อย

กายภาพฯ เป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ​ที่มุ่งเน้นการรักษา ส่งเสริม ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนไข้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การบรรเทาอาการปวด การเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหว หรือการฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย จากอาการบาดเจ็บหรือโรคต่างๆ โดยไม่ต้องใช้ยาและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด แบ่งขั้นตอนการรักษาออกเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

Manual Techniques เป็นเทคนิคในการรักษาด้วยมือ ที่ได้รับการอบรมและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยับข้อต่อ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อและกล้ามเนื้อ (Mobilization) การขยับ ดัด ดึงข้อต่อ (Manipulation) การดึงคอ-ดึงหลัง (Manual Traction) และการยืดกล้ามเนื้อ (Stretching)
Modalities เป็นการใช้เครื่องมือทางกายภาพฯ เพื่อช่วยลดปวดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น เครื่องช็อคเวฟ เครื่องอัลตราซาวด์ และเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
Exercises หลังจากที่อาการปวดลดลงแล้ว​การออกกำลังกายจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงเพื่อป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ ในกรณีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง จะเน้นการออกกำลังกายเฉพาะส่วนเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย เช่น ผู้ป่วยที่มีปัญหาในการเดิน จะเน้นฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและกล้ามเนื้อส่วนล่างที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ 

กายภาพฯ จะช่วยให้คุณกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ ลดปวด และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ…

คนไข้สามารถติดต่อ ปรึกษาปัญ​หาเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง เรามีการติดตามอาการ ผลการรักษา ตลอดจนให้คำปรึกษาในการดูแลตนเองเบื้องต้น จนกว่าจะถึงนัดหมายครั้งถัดไป

นอกจากนี้ ทั้งสาขาอโศกและสาขานนทบุรี ยังมีที่จอดรถ เดินทางสะดวก อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS หรือ MRT

นักกายภาพฯ ของเรามีประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 10 ปี ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า คนไข้จะได้รับการรักษาที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

ไม่มี เราเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับอาการของคนไข้ เช่น การกระตุ้นไฟฟ้า ไม่ได้เหมาะสมกับการรักษาทุกเคส ดังนั้น เราจึงใช้เวลาเพื่อโฟกัสกับการรักษาที่ได้ผลที่สุด

1. ตรวจร่างกายอย่างละเอียด ด้วยประสบการณ์ของนักกายภาพฯ แต่ละท่านที่มากกว่า 10 ปี คุณจึงมั่นใจได้ว่า จะได้รับการตรวจวิเคราะห์ที่แม่นยำ ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการรักษาทางกายภาพบำบัดที่มีประสิทธิภาพและตรงจุด

อาการปวดในตำแหน่งเดียวกัน อาจมีสาเหตุที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ประสบการณ์ของนักกายภาพฯ ที่คลินิก จะช่วยตรวจประเมิน วางแผนการรักษา และดำเนินการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็วและยั่งยืน

หากคนไข้มีอาการที่รุนแรง น่าสงสัย หรือได้รับอุบัติเหตุ เราจะแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น X-Ray, CT Scan และ MRI เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน หากมีผลการตรวจรังสีวินิจฉัยอยู่แล้ว สามารถนำมาใช้ประกอบการรักษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้น

ในบางกรณี นักกายภาพฯ ของเราจะทำงานร่วมกับแพทย์ในการวางแผนการรักษา และร่วมมือกับ Fitness Trainer ในการออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกาย เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด

2. Manual Therapy นักกายภาพฯ ที่คลินิกของเรา ล้วนมีความเชี่ยวชาญด้าน Manual Therapy (หัตถบำบัด) ซึ่งเป็นเทคนิคสำคัญในการบรรเทาอาการอักเสบของจุด Trigger Point ซึ่งมักเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดเรื้อรัง การรักษาประกอบด้วยหลายเทคนิค เช่น การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดอาการตึงตัว การขยับข้อต่อและเนื้อเยื่อโดยรอบ (Mobilization) เพื่อเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว และการดึงคอ-หลัง (Manual Traction) เพื่อลดแรงกดทับต่อเส้นประสาท

เทคนิคเหล่านี้ถือเป็นแนวทางการรักษาหลักทางกายภาพฯ ของประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั่วโลก

3. เครื่องมือ คลินิกของเรายังนำเครื่องมือที่ทันสมัย (Modalities) เช่น เครื่องช็อคเวฟ (Shockwave) เครื่องอัลตราซาวด์ (Ultrasound) และเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า (Electrical Stimulation) มาประกอบการรักษา เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการอักเสบ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ฯลฯ

ทั้งนี้ นักกายภาพฯ จะเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการรักษาของแต่ละอาการ เช่น ผู้ที่มีภาวะกระดูกเสื่อม ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องช็อคเวฟ (Shockwave) ในการรักษาบริเวณนั้นๆ เพื่อความปลอดภัย เป็นต้น

4. การออกกำลังกาย (Therapeutic Exercises) เป็นอีกหนึ่งในวิธีการรักษาหลักทางกายภาพฯ ในประเทศสหรัฐอเมริกา จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ให้มีความสมดุลกันทั้งสองฝั่ง ช่วยทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น เพิ่มองศาการเคลื่อนไหว (Increase Range of Motion) และป้องกันอาการบาดเจ็บซ้ำๆที่จุดเดิม 

นอกจากนี้ ยังช่วยปรับท่าทางในการใช้ชีวิตประจำวัน (Posture Correction) ไม่ว่าจะเป็นท่านอน ท่านั่ง ท่ายืนและท่าเดิน ให้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บในอนาคต

5. ให้ความรู้เกี่ยวกับตัวโรคและติดตามผลการรักษา เรามุ่งเน้นให้คนไข้มีความเข้าใจเกี่ยวกับรอยโรคหรือภาวะที่เป็นอยู่ เพื่อที่จะปฎิบัติตัวได้อย่างเหมาะสม และเพื่อหลี่กเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ นอกจากนี้ เรายังติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง ให้คำปรึกษา คำแนะนำ จนกว่ามั่นใจว่า คนไข้จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอย่างมั่นใจ

สำหรับผู้ที่กำลังมองหา “คลินิกกายภาพบำบัด ใกล้ฉัน” ควรสอบถามแนวทางการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าแนวทางการรักษานั้นเหมาะสมกับตนเอง และอาการที่เป็น อีกทั้ง ควรเลือกคลินิกที่มีนักกายภาพฯ ที่มีประสบการณ์ และความสามารถในการตรวจร่างกายได้อย่างตรงจุด เพื่อการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หายเร็ว หายขาด ปลอดภัย และไม่กลับมาเป็นซ้ำ ท่านสามารถปรึกษาอาการเบื้องต้นกับเรา ได้ทางโทรศัพท์หรือทาง LINE OA

ร่างกายของเรามีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองได้ แต่เนื่องจาก เราจำเป็นต้องเคลื่อนไหวหรือใช้งานตลอดเวลา ทำให้การซ่อมแซมตัวเองเป็นไปได้ยากมากขึ้น ​หากมีอาการปวดที่ไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แนะนำให้เข้ามารักษาทางกายภาพฯ จะช่วยให้หายไวขึ้น อาการปวดจากการบาดเจ็บลดลง และป้องกันไม่ให้อาการเรื้อรัง

ขึ้นอยู่กับอาการ เช่น อาการเส้นเอ็นอักเสบจะใช้เวลารักษานานกว่ากล้ามเนื้ออักเสบ ส่วนโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ในบางกรณีสามารถรักษาเพื่อบรรเทาอาการปวด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรค 

เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ควรเข้ารับการรักษาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อความต่อเนื่องของการรักษาและช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น 

แม้ว่าระดับความทนต่อความเจ็บปวดของแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่การเข้ารับการรักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ จะช่วยให้หายเร็วและไม่เรื้อรัง

การรักษาทางกายภาพฯ จำเป็นต้องใช้ความต่อเนื่องในการเข้ารับการรักษา เพื่อให้หายขาด และป้องกันไม่ให้อาการกลับมา เนื่องจากคลื่นไฟฟ้าที่ใช้ในการรักษา จะได้ผลเฉพาะในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หากคนไข้หยุดการรักษากลางคัน ก็เปรียบเสมือนกับการรับประทานยาที่ไม่ครบโดส ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ หรือกลายเป็นอาการเรื้อรังได้

จากสถิติของทางคลินิกฯ คนไข้ที่ได้รับการรักษาจนหายขาด จะไม่กลับมาเป็นซ้ำที่ตำแหน่งเดิม ภายในระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการปรับพฤติกรรมของคนไข้ด้วย

การออกกำลังกายทางกายภาพฯ ไม่ได้เหมือนกับการออกกำลังกายทั่วไป เพราะเราจะเน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณที่มีปัญหา ​และออกแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับ​สภาพร่างกายและปัญหาสุขภาพของแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่อ่อนแอ และป้องกันการบาดเจ็บซ้ำที่จุดเดิม 

นอกจากการรักษาแล้ว ยังเหมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัว ที่ช่วยออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคลในการรักษาแต่ละครั้ง ให้เหมาะกับสภาพกล้ามเนื้อ ณ ขณะนั้น

โรคที่เกิดจากพันธุกรรม เช่น กระดูกสันหลังคดแต่กำเนิด หรือโรคประจำตัว เช่น เท้าชาจากเบาหวาน ที่ทำให้ปลายประสาทอักเสบ ฯลฯ

นัดหมาย

085-9966-353
ภาพบรรยากาศ นพ.คุณากร อัชชนียะสกุล มาเยี่ยมคลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายนอก ประตูทางเข้า คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน ที่พักรับรอง กว้างขวาง ไม่อึดอัด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน ห้องตรวจ รักษา มีความเป็นส่วนตัว กว้างขวาง ไม่อึดอัด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณโซนออกกำลังกาย คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน กว้างขวาง ไม่อึดอัด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายใน กว้างขวาง โปร่งสบาย ไม่อึดอัด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก บริเวณประตูทางเข้า
ภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก บริเวณล็อบบี้
ภาพบรรยากาศภายในห้องรักษา คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก
ภาพบรรยากาศภายนอก ตึกจัสมิน อโศก ที่ตั้งคลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขาอโศก

Business Hours

วันจันทร์-ศุกร์: 10.30 - 20.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์: 9.30 - 18.30 น.

Location

อยู่ห้อง B-13 ชั้น B-1 (ข้างออฟฟิศเมท)
Jasmine City ซ.สุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
https://goo.gl/maps/yc3JW

Parking

จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง
ภาพบรรยากาศ นพ.คุณากร อัชชนียะสกุล มาเยี่ยมคลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายนอก ป้ายหน้าร้าน คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี ทางลงรถไฟฟ้า สถานีบางรักใหญ่ ทางออก 2
ภาพบรรยากาศภายนอก ป้ายบิลบอร์ด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายนอก ป้ายหน้าร้าน ป้ายบิลบอร์ด คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณที่รับรอง คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณโซนออกกำลังกาย และฝึกผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณโซนฝึกผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายใน บริเวณโซนออกกำลังกาย คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
โลโก้และภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี
ภาพบรรยากาศภายนอก คลินิกกายภาพบำบัด เบรน รีแฮบ สาขานนทบุรี

Business Hours

วันจันทร์-ศุกร์: 9.30 - 20.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์: 9.30 - 18.30 น.

Location

อยู่ติด MRT บางรักใหญ่ ทางออก 2
23/10 หมู่ 3, บางรักใหญ่, บางบัวทอง, นนทบุรี 11110
https://goo.gl/maps/wTdR4

Parking

มีที่จอดรถ 4-5 คัน
ที่จอดรถ เลี้ยวเข้าซอย อยู่หัวมุม